กษ.ชวนลูกหลาน'เกษตรกร'กลับบ้านสานต่ออาชีพ - เดลีนีวส์

simulasitech.blogspot.com

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า โครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร มีเป้าหมายสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีใจรักอาชีพการเกษตรและต้องการกลับคืนสู่ถิ่นฐานบ้านเกิด เพื่อสานต่ออาชีพของครอบครัว และมีเวลาอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร เปิดรับสมัครมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2563 ที่ผ่านมา มีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ 7,559 คน มาจากหลากหลายอาชีพทั้งพนักงานบริษัทเอกชน ค้าขาย รับจ้าง มีสหกรณ์เข้าร่วมโครงการแล้ว 680 สหกรณ์

จากการสำรวจความสนใจในการทำการเกษตรของผู้ร่วมโครงการต้องการให้ถ่ายทอดความรู้ในด้านต่างๆ คือ 1. เกษตรผสมผสาน 2. เกษตรอินทรีย์ 3. เทคโนโลยีการเกษตร เกษตรอัจฉริยะ เกษตรแม่นยำ 4.การปรับปรุงการผลิตการเกษตร/ทักษะการเกษตร 5. การบริหารจัดการธุรกิจการเกษตร

รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวเสริมว่า การดำเนินโครงการฯนี้ นอกจากส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่หันกลับมาสานต่ออาชีพเกษตรกรรมของพ่อแม่แล้ว ยังเน้นสร้างความมั่นใจและความรู้ให้เกษตรกรรุ่นใหม่ที่ออกไปทำเกษตรแล้วต้องอยู่รอด มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ พร้อมทั้งมอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยให้สหกรณ์การเกษตรในพื้นที่เป็นศูนย์กลางส่งเสริมอาชีพการเกษตร และเป็นพี่เลี้ยงดูแลเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ

ทั้งในด้านการถ่ายทอดความรู้การทำเกษตร สนับสนุนให้ทำการเกษตรผสมผสาน หรือใช้หลักทฤษฎีใหม่ มาบริหารจัดการพื้นที่การเกษตร และส่งเสริมการทำเกษตรสมัยใหม่หรือเกษตรแม่นยำ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ เน้นการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ จัดหาปัจจัยการผลิต บริการเครื่องจักรและเครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ พร้อมสนับสนุนโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนประกอบอาชีพ และแนะนำช่องทางการจำหน่ายผลผลิตสู่ตลาดตลอดจนประสานภาคเอกชนจัดหาตลาดมารองรับผลผลิต พร้อมช่วยวางแผนการผลิตสินค้า ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและผู้บริโภค

[embedded content]

นอกจากนี้ยังวางแผนต่อยอดด้านการตลาดด้วยการพัฒาร้านสหกรณ์ ให้เป็นศูนย์รวบรวมและจำหน่ายพืชผักและผลิตผลการเกษตรจากสหกรณ์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสเลือกซื้อสินค้าทั้งของสดและของแห้ง โดยจะเน้นจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เช่น มาตรฐาน GAP และปลอดภัยในราคายุติธรรม ซึ่งผู้บริโภคสามารถตรวจสอบถึงที่มาของแหล่งผลิตสินค้าแต่ละชนิดได้“ซุปเปอร์มาเก็ตสหกรณ์” จะเชื่อมโยงกับสหกรณ์ทั่วประเทศ

ซึ่งข้อดีของการซื้อสินค้าที่ “ซุปเปอร์มาเก็ตสหกรณ์” เป็นการสนับสนุนแบ่งปันผลประโยชน์ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ทำให้คนไทย บริโภคผักผลไม้ปลอดสารเคมี ผักอินทรีย์ ราคาไม่แพง ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป ซุเปอร์มารเก็ตสหกรณ์ จะขยายไปทุกจังหวัด อำเภอ อบต.ต่างๆ โดยเร็วๆ นี้ เราจะทำให้เกษตรกร มีรายได้มั่นคงขึ้น มีกำลังใจผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยมาขาย เป็นการเปิดตลาดช่องทางให้คนรู้จักสินค้าสหกรณ์ที่มีคุณภาพ จากฟาร์มสู่มือผู้บริโภค

Let's block ads! (Why?)